วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

คสช.เปิดให้คนไทยรู้ความจริงดีใหม?:สื่อไทยถูกปิดสื่อนอกยิ่งเปิด

■วิกฤติวังพังเศรษฐกิจไทย■
(รวมข้อมูลสื่อต่างประเทศ)

หนังสือฝรั่งที่ประชาชนอยากอ่านแต่เผด็จการอำมาตย์ไทยไม่อยากให้คนไทยรู้..แต่วันนี้ได้แปลแบบเก็บใจความสั้นๆอ่านง่ายโดยนายพลลีคิม(General Lee Kim)
A Kingdom in Crisis...The book that Thai military junta don't want you to read.

หนังสือ อะ คิงดอม อิน ไครซิสนี้เป็นผลงานของอดีตนักข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทยชื่อAndrew(แอนดรูแม็กไควเกอร์):
 ■กล่าวย้อนถึงต้นเหตุของความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่องทั้งหมดเกิดมากว่าสิบปีในประเทศไทยมีดังนี้

1.ชนชั้นหัวแถวที่มีพลเอกเปรมตั้งตัวเป็นผู้นำได้สร้างความขัดแย้งของการเมืองไทยให้เกิดการต่อสู้เพื่อว่าใครจะได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของไทย,ตามหลักแล้วต้องเป็นของเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ทันทีที่กษัตริย์ภูมิพลเสียชีวิต
แต่เปรมกลับเป็นหัวหอกสร้างสถานการณ์สร้างม้อบต่อต้านการขึ้นครองราชย์ของเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ที่ผ่านมา และพร้อมที่จะทุ่มทุกอย่างเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของรัชทายาทพระองค์นี้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง,เปรมลากฟ้าหญิงสิรินทรให้มาเป็นคู่ท้าชิงพร้อมปั้นให้สิรินธรทะเยอทะยานขึ้นแทนพี่ชายให้ได้,กลุ่มของเปรมที่มีแกนหลักในการสืบทอดอำนาจต่อมาจากเปรมคือสุรยุทธ์จะกุมอำนาจทางทหารไว้ในฐานะประธานองคมนตรีคนต่อไปและกลุ่มทางใต้พรรคปชป.เดิมก็จะมีสุเทพเป็นผู้รับใช้เปรมในการเป็นฐานจะแสวงหาอำนาจของกษัตริย์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยใช้ฐานกำลังคนใต้ที่สนับสนุนเปรมให้ดันฟ้าหญิงสิรินธรขึ้นเป็นใหญ่ตามที่เปรมปราถนา

2.การตายของกษัตริย์ภูมิพลจะก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่หลวงเกินกว่าทหารจะรับมือได้ ,บ้านเมืองไทยไร้กฏเกณฑ์มานานแล้วด้วยน้ำมือของเปรมร่วมกับฟ้าหญิงสิริธร,ความขัดแย้งในปลายรัชสมัยนี้เริ่มมาจากความวิตกหวาดกลัวของชนชั้นสูงจนก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2005

3.การต่อสู้ของพี่น้องสองคนในราชวงศ์ที่รุนแรงมาอย่างต่อเนื่องนี้จะทำให้การเปลี่ยนผ่านรัชสมัยไม่เรียบร้อยและเกิดความเสื่อมศรัทธาต่อครอบครัวกษัตรย์ในฐานะนักสร้างภาพลักษณ์อย่างมาก,และจากการแก่งแย่งอำนาจที่รุนแรงนี้จะทำให้กษัตริย์ภูมิพลที่เคยมีอำนาจทางการเมืองแบบเบ็ดเสร็จนั้นจะไม่สามารถถ่ายอำนาจที่สมบูรณ์นี้ให้แก่รัชกาลต่อไปได้, ถ้าได้สิรินธรขึ้นเป็นกษัตริย์ไทยคนต่อไปก็จะต้องเป็นกษัตริย์หุ่นเชิดของชนชั้นสูงโดยพวกของเปรมแทนที่จะเป็นผู้เชิดเปรมและคนชั้นสูงให้เป็นหุ่นแบบที่ภูมิพลเคยเชิด,และผลจากการแย่งชิงราชบัลลังก์ของสิรินธรจะทำให้เหล่าคนชั้นสูงนายทุนอำมาตย์ใหญ่ๆที่หนุนหลังได้เข้าไปมีบทบาทสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจจากเงินของวังโดยถือเป็นโชคลาภวาสนาขนาดใหญ่

4.คนไทยตื่นตัวมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องสถาบันกษัตริย์ที่เคยคิดว่าตัวเองต้องแสดงความรักและจงรักภักดีตลอดเวลาเพราะมีกฎหมายโทษร้ายแรงคอยกดหัวก็จริงแต่พวกเขาก็รู้ว่ากษัตริย์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารการก่อจราจลที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายและตกต่ำเพียงใดที่ผ่านมา,วันนี้คนไทยฉลาดและรู้ทันกษัตริ์ย์มากขึ้นและคิดไกลถึงกับไม่อยากให้มีระบอบกษัตริย์อีกต่อไป,คนส่วนใหญ่เริ่มไม่สนับสนุนลูกๆของกษัตริย์ภูมิพลไม่ว่าจะเป็นใครเพราะทุกคนล้วนแต่แสดงให้ประชาชนเห็นแล้วว่าเป็นบุคคลผิดปกติทางเพศและล้มเหลวในชีวิตโดยสิ้นเชิงแม้แต่สิรินธร ♤ระบอบภูมิพลควรยุติบทบาทไปจากประเทศไทย,ความจงรักภักดีที่ปรากฎให้เห็นนั้นเป็นเรื่องที่ระบอบภูมิพลสร้างขึ้นด้วยเงินภาษีของคนยากคนจนที่ถูกเกณฑ์ให้ไปเคารพเขาในวันเกิด,ภูมิพลสร้างภาพเป็นบิดาแห่งความพอเพียงแต่ในทางลับกลับแสวงหาผลประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดินและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีอภิสิทธ์ในนามบริษัทการค้าของเขาที่มีมากที่สุดในประเทศไทยเพื่อใช้สร้างความร่ำรวยให้ครอบครัวตัวเองจนติดอันดับกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกมาหลายสมัย

♤ชนชั้นสูงจำนวนมากสนใจที่จะภักดีต่อภูมิพลเพียงแค่เปลือกนอกพวกนี้ก็พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากสถาบันกษัตริย์ในแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองให้มากที่สุด

♤ปัญหาใหญ่ของพวกชนชั้นสูงสายวังที่ประกาศตัวว่าให้คน"รักในหลวง"มากๆก็เพียงเพื่อที่จะซ่อนความเกลียดชังเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์อย่างรุนแรงในเรื่องการใช้ชีวิตเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญ

♤แม้แต่ทักษิณก็ต้องทำตัวเป็นพวกจงรักภักดีเข้าไว้เหมือนกันคือต้องแสดงตนเองออกมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพรรคที่ทำประโยชน์ให้คนในชาติมากกว่าพรรคที่เปรมให้การสนับสนุน,ทักษิณไม่ได้ต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์เพียงแต่ต้องทำเพื่อไม่ให้ตัวเองเดือดร้อน(เหมือนกับพวกที่ชอบประกาศตัวว่า รักในหลวง) 
♤การที่เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์จะขึ้นครองรารชย์แต่ก็กลับเกิดความวุ่นวายนั้นทั้งหมดเกิดจากการเสี้ยมของกลุ่มเปรมและกลุ่มสายวังที่หนุนสิรินทรให้ดับเครื่องชนกับวิราลงกรณ์เพื่อให้พี่ชายน้องสาวห้ำหั่นกันเองในการแย่งกันเป็นรัชกาลที่10เพื่อพวกตัวเองจะแสวงหาประโยชน์จากความขัดแย้งในการสนับสนุนฝ่ายใดฝายหนึ่ง ♤สรุปสั้นๆเปรมต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์ที่มีวชิราลงกรณ์ขึ้นครองราชย์และพยายามสร้างระบอบกษัตริย์ที่มีสิรินธรขึ้นมาแทน■

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวลับกรองแล้ว : กษัตริย์ซาอุสิ้นพระชนม์แต่คนกลับมองย้อนมาไทย

 28มกราคม2558 



"กษัตริย์ซาอุสิ้นพระชนม์แต่คนกลับมองย้อนมาไทย"


สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/


*กษัตริย์ซาอุดิอารเบียตายข่าวเปิดเผยว่ามีลูกผู้หญิง21คน,ผู้ชาย16คนมีเมีย14คน,แต่กษัตริย์ภูมิพลเพียงใกล้ตายข่าวเริ่มออกมาแล้วว่ามีลูกมากกว่า4คนแน่นอนแต่เมียยังไม่รู้ว่ามีเท่าไร?แต่รู้ว่าพระองค์ท่านสืบสายญาติจากพระยาเทครัวที่ชอบทั้งพี่ทั้งน้องนามสกุลเดียวกัน

*คู่แรกนามสกุลกิติยากรเป็นที่รู้กันค่อนข้างแน่ชัดแต่มีวิธีการจัดไม่ให้ชัดด้วยใช้กฎหมาย112คอยฟัดแต่สังคมสื่อออนไลน์ลือกันมาหนาหูเรื่องมรว.บุษบา กิติยากร(น้องสาวราชินี)ที่มีลูกสาวชื่อ สุธาวัลย์ แต่ไม่ให้ใช้นามสกุลพ่อจริงว่า"มหิดล"แต่ให้ใช้นามสกุลลดาวัลย์ตามบิดาทีชอบด้วยกฎหมายที่เป็นทางการชื่อหม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์,เมื่อแต่งงานกับสุรเกียรติ์ เสถียรไทยก็ใช้นามสกุลสามีตามกฎหมายว่าเสถียรไทยแต่นอกกฎหมายสงสัยจะเป็นลิ้มทองกุล

*เรื่องในวังเกี่ยวกับคู่ครองมักจะสับสนเป็นต้นแบบของพรรคประชาธิปตย์ที่สลิ่มมักไม่ยอมรับรู้เพราะถือว่าท่านเป็นเทพที่ผุดผ่อง,อยากจะให้ลองดูอีกสักคู่สกุลแต่สปท.ยังอยากให้ลุ้นก่อนแล้วค่อยเผยทีหลังเพราะยังไม่อยากให้บางคนช็อคตายก่อนเวลา

*อีกคู่สองสาวนามสกุลเดียวกันที่ว่านี้มีความงามระดับนางงามจักรวาลคนหนึ่งวันนี้แม้แก่อายุ68ปีแต่ไม่มีเหี่ยวเพราะเทียวไปผ่าตัดเป็นประจำจึงทำให้งามเหมือนอายุ38ปีมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนแต่ก่อนคลอดก็ให้ไปแต่งกินกันโดยชอบด้วยกฎหมายกับคนสกุลกิติยากรที่เป็นตุดอยู่สักพักพอเธอคลอดลูกแล้วได้ชื่อพ่อที่ถูกต้องแล้วก็เลิกกันไปโดยใช้วิธีแบบเดียวกับหม่อมบุษบาแล้วหลังจากนั้นก็ไปมีผัวใหม่อีกก็ยิ่งห่างตัว

*อีกคนเป็นลูกพี่ลูกน้องแต่นามสกุลเดียวกันแต่ก็สวยอย่างนางงามจักรวาลถึงขนาดทักผิดได้ในฐานะสาวเหนือจึงมีิผิวพรรณดีและอายุวันนี้67ปีมีชื่อเปิดได้แต่ยังไม่ขอเปิดปัจจุบันมีลูกชายเกิดกับภูมิพลด้วยคนหนึ่งเรียกขานกันในวังว่า"อภิชาติ"อายุอยู่เลข40ปีแต่เมื่อท้องก็ให้ไปแต่งงานกับชายหนุ่มคนหนึ่งในสายสกุล"ประภาวัต"และออกไปคลอดที่ต่างประเทศเมื่อเติบโตก็เคยมอบหมายงานให้ดูแลผลประโยชน์ในอเมริกาแต่ล่าสุดเดินอยู่ในวังที่หัวหินแต่ที่แน่ๆคุณตาก็กลายเป็นพระยาทและภูมิพลก็ได้มอบหมายให้ดูแลงานด้านนิติบัญญัติในฐานะประธานสภาตั้งแต่2519ต่อเนื่องยาวนานเกือบ10ปีแต่ส่วนใหญ่เป็นประธานสภาในสมัยการรัฐประหาร...อีกไม่นานทุกอย่างจะเปิดเผย...หรือใครอยากให้เฉลยก็ไปเปิดดูว่าประธานสภาหลังเหตุการณ์6ตุลามหาโหดชื่ออะไรก็ง่ายที่จะคลำถูก


*เรื่องถอดถอนยิ่งลักษณ์ด้วยเสียงขาดลอย190ต่อ18เสียงวิเคราะห์เท่าไรก็วิเคราะห์ไม่ออกว่าทำไมคะแนนจึงออกมาหนาแน่นเช่นนี้,ก็ใหนแหล่งข่าวบอกว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความสัมพันธ์อันดีกับนายกปู,ก็ขอให้รู้ตรงนี้ว่าของจริงแกนอำนาจไม่ใช่ประยุทธเพราะพี่เหล่ทำเท่ห์แค่เป็นตัวตลกและวันนี้แหล่งข่าวที่ยืนยันได้จากสายศิริราชว่าพระถอมขาถ่างท่านสั่งผ่านลงมา...วิเคราะห์ดูดีๆก็มีเหตุผลเพราะการที่ตระกูล"ชินวัตร"จะอ่อนแอยิ่งมากเท่าไรในวังทุกสายก็ยิ่งสบายดีดังนั้นเลิกฝันเรื่องฟ้าชายจะช่วยให้รอดพ้นสักทีจะดีใหม?,ขอฝากด้วยช่วยหน่อยถ้าคนใหนใกล้ชิดทักษิณช่วยสะกิดให้ตื่นด้วย...ของจริงยังเป็นพลังจากทอมขาถ่างที่ยังมีพลังแค้นแทนพ่อไม่เปลี่ยนแปลง

*ในเรื่องทางการเมืองก็ไม่ชอบใจเรื่องภายในใจก็อิจฉา,เรื่องโรคอิจฉาของวังนั้นเป็นโรคติดต่อที่รุนแรงยิ่งเป็นเรื่องผู้หญิงสวยผู้หญิงเก่งและยิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่ประชาชนรักก็ยิ่งอันตรายดังนั้นทุกสายในวังพลังหญิงก็ยิ่งรวมศูนย์ซัดกระหน่ำ...ลองนับนิ้วมือดูครอบครัวอลเวงเนื้อแท้วันนี้มีหญิง5ชาย1เดียวเท่านั้น...ยังดีนะที่คุณแม่ปลาวาลเดี่ยงไปแล้วไม่เช่นนั้นจะเป็นมติ220:0

*เรื่องโรคขี้อิจฉาของผู้หญิงในวังนั้นดังมานานแล้ว...ในสมัยที่ปลาวาลยังแข็งแรงภรรยานายกฯคนใดถ้าเผลอไผลไปให้สื่อเรียกว่าสตรีหมายเลข1เมื่อใดก็เตรียมตัวตายได้ทั้งผัวทั้งเมีย,เรื่องทำนองนี้เมียนายทหารที่หวังจะเติบโตรู้ดีถ้าผัวเป็นใหญ่เมื่อใดต้องให้ระวังตัวเมื่อเข้าวัง

*นายกฯที่ปลอดภัยต้องไม่มีเมียดูอย่างพลเอกเปรมเป็นต้นแต่แม้กระนั้นตอนปลายของการเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงสุดท้ายก็เกือบตายเอาตัวเกือบไม่รอดที่ดันไปทำท่าเดินเหยียบผ้าขาวให้ชาวบ้านเอาไว้ไปบูชา

*อย่าว่าแต่นายกรัฐมนตรีที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังจนวังอิจฉาวันนี้ในวงการสงฆ์ก็เหมือนกันถ้าเป็นพระบารมีโด่งดังก็ให้ระวังตัวไว้,เพราะพระสงฆ์องค์ใหนที่โยมถวายเงินทำบุญมากๆชีวิตจะยากลำบากตัวอย่างมีมาแล้วทั้งธรรมกายและสันติอโศก,ถ้าคิดจะอยู่ปลอดภัยต้องถวายเงินให้วังดูอย่างหลวงพ่อคูณยังจำได้ใหมต้องถวายเงินให้ถึง80ล้านบาทเม่ือครั้งกษัตริย์ภูมิพลยังเดินไหวก็เสด็จไปรับเงินเองถึงวัดบ้านไร่ยังไม่นับถึงเบี้บ่ายรายทางที่คนในวังจะไปเทียวรีดไถพระกันเป็นระยะๆล่าสุดสายข่าวรายงานว่าพระหลวงปู่เณรคำก็เจอเข้าอีหรอบเดียวกันแต่ด้วยเพราะดังมีสตางค์ตั้งแต่อายุยังน้อยที่ยอมถวายเงินแล้วแต่ฮึดฮัดไม่ต่อเนื่องจึงเกิดเรื่องไล่ทิ่มแทง

*เรื่องนางเสี้ยนจิตภัสร์ หรือตั้น กฤดากร ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรโดยพลเอกดาวพงศ์(มือเปื้อนเลือดราชประสงค์)ลงนามเองก็ยิ่งชัดเจนเพราะนางคนนี้เป็นเด็กเทพถ่างใกล้ชิดยิ่งกว่านางติ่งคลิปโป้ที่เทพถ่างเปิดตัวปูนบำเหน็จจากการขึ้นเวทีกปปส.ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้,ดังนั้นคนใกล้ชิดในฐานะเหลนของพระองค์เจ้าบวรเดชบวรหัวหน้ากบฏบวรเดชศัตรูคู่อาฆาตรของคณะราษฎรเมื่อปี2476ทำไมจะฝากให้เป็นคณะทำงานไม่ได้เพราะร่วมเป็นกบฏต่อประชาธิปไตยมาด้วยกันกับว่าการเองแท้ๆ


*เรื่องมติถอดถอนยิ่งลักษณ์เป็นผลดีที่ทำให้สถานการณ์แยกมิตรแยกศัตรูแจ่มชัดขึ้นจนได้ข้อสรุปตาสว่างดังนี้1.ชินวัตรจะฝากความหวังกับวังสายฟ้าชายฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้แน่,2.คู่ขัดแย้งในวังนั้นมีทั้งด้านที่ร่วมกันและแยกกันแต่ด้านแยกกันเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในเรื่องรัชกาลที่10ยังเป็นกระแสหลักที่ยังรอวันประทุเพราะพลังฝ่าย"ทอมถ่างบ่างเปรม"ยังขับเคลื่อนพลังตลอดเวลาแต่วันนี้ด้านที่ร่วมกันเพื่อทำให้พลังของชินวัตรอ่อนตัวเป็นผลประโยชน์ร่วมจึงเกิดเอกภาพตามมติถอดถอน,3.วันนี้พลังชี้ขาดในการขึ้นเป็นรัชกาลที่10ในเวทีอำนาจไม่ได้อยู่ที่ชินวัตรแต่อยู่ที่คณะทหารคสช.(ส่วนคสช.หนุนใครยังอำพรางกันในกลุ่มอำนาจ)ดังนั้นการทำลายฐานการเมืองชินวัตรจึงเป็นผลประโยชน์ร่วมของคสช.ร่วมกับวังทั้งสองฝ่าย,4.สถานการณ์เผด็จการทหารยาวแน่ใครที่ฝันหวานว่าสถานการณ์จะกลับมาเลือกตั้งโดยง่ายต้องตื่นได้แล้ว,5.คสช.แสดงตัวเตรียมร่างรัฐธรรมนูญเพื่อความมั่นคงวังแต่แฝงสร้างฐานอำนาจให้ตัวเองมั่นคงด้วยการให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอโดยใช้กลุ่มชินวัตรเป็นเป้าล่อ...แต่ทั้งหมดนี้เป็นภาวะ3ก๊กของ3กลุ่มอำนาจที่ช่วงชิงผลประโยชน์กันบนศาลพระภูมิที่มีเสาหลักค้ำอำนาจเพียงเสาเดียวโดยไม่สนใจปากท้องของประชาชนและเสาหลักแห่งอำนาจคือกษัตริย์ภูมิพลใกล้สิ้นใจและมิได้จัดให้มีการสืบทอดอำนาจให้เรียบร้อยก่อนในขณะที่ตนยังมีสติสัมปชัญญะด้วยความเห็นแก่ตัวซึ่งวันนี้ได้สายเสียแล้วจึงนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการพังทะลายของระบอบศักดินาไทยยิ่งกษัตริย์ภูมิพลหนุนให้ทำรัฐประหารและให้ประยุทธ์ที่มีภาวะสติเฟื่องเป็นนายกฯด้วยยิ่งสนุกกันใหญ่ดังนั้นการลากสถานการณ์ต่อไปบนภาวะที่ไร้ซึ่งความถูกต้องเป็นธรรมไม่เพียงแต่ประชาชนจะเสื่อมศรัทธาต่อสถาบันกษัตริย์แล้วเกียรติ์ภูมิของกองทัพก็พังทะลายด้วย

*ปิดท้ายวันนี้หลังจากคสช.สั่งการเล่นงานยิ่งลักษณ์อย่างไร้เหตุผลที่ทำให้ผูคนเกลียดชังอย่างถึงใจยังไม่พอเพียงแค่เขาจะขอโอกาสแถลงข่าวที่โรงแรมเอสซีปาร์คก็ยังตามมารังควานออกคำสั่งห้ามแถลง....วันนี้กองทัพไทยแม้จะยิ่งใหญ่ในภูมิภาคแต่ขอบอกความจริงให้ว่าข้างในกลวงแม้จะเพิ่มงบประมาณซื้ออาวุธมากมายแต่รบกับใครก็มีแต่แพ้เพราะแนวหลังมีแต่คนคอยจะซ้ำเติมเนื่องจากวันๆสร้างแต่ความเกลียดชังให้กับประชาชนของตนเอง//
-------จบ----------

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

มุมมอง กอท.เสรีไทย: ข่าวพระอาการจาก รองสมุหราชองครักษ์ว่อนเนต


••••••••••••••••••••
จากผู้ที่ใช้ชื่อและตำแหน่งสำคัญในราชสำนักที่มีลักษณะรายงานตามสายงาน (รายละเอียดข้างท้ายนี้) จะจริงหรือเท็จผู้ที่มีชื่อยังไม่มีการยืนยันแต่เนื้อความและพฤติเหตุมีความสำคัญต่อสถานการณ์การดำรงอยู่ของรัฐบาลประยุทธ์ที่อาศัยการอ้างพระอาการของในหลวงในการถืออำนาจเผด็จการปกครองบ้านเมืองและใช้กฎอัยการศึกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (เพราะผู้ประกาศต้องเป็นรมว.กลาโหมและจนถึงขณะนี้เชื่อว่ายังไม่มีการลงพระปรมาภิไธย) เราจึงต้องให้ความสนใจซึ่งวิเคราะห์ผลของหนังสือได้2ประเด็นดังนี้
  1. เนื้อความมีเหตุผลจากสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วยตาและรับรู้ข่าวจากหูของตนเองที่สอดคล้องกับพระชนมายุ87พรรษา
  2. ภาษาราชาศัพท์ใช้ถูกต้องผู้เขียนมีความรู้แต่จะใช่ผู้ลงนามหรือไม่? ไม่อาจยืนยัน, แต่มีผลที่ต้องวิเคราะห์ต่อดังนี้;

2.1 ถ้าเป็นความจริงก็แสดงว่าฝ่ายฟ้าชายไม่พอใจต่อภาวการณ์ปกปิดความจริงที่ฝ่ายพลเอกเปรมกำลังใช้การโกหกเกี่ยวกับพระอาการเพื่อดึงสถานการณ์ใกล้ยืดเยื้อและไม่ยอมร่วมดำเนินการเพื่อให้สมเด็จพระบรมที่มีความชอบธรรมมากที่สุดขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการ
2.2 ถ้าไม่จริงก็มองได้2เหตุผลว่าใครเป็นผู้สร้างข่าวนี้,ฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายเปรมเป็นผู้สร้างขึ้นเพราะไม่พอใจที่ประยุทธ์เอาใจออกห่างแข็งข้อไม่ยอมรับใช้แนวทางมุ่งมั่นของเปรมเกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์จึงต้องการเปลี่ยนตัวนายกฯหรืออีกฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายทหารวงศ์เทวันหรือฝ่ายที่สามที่ไม่พอใจการผูกขาดอำนาจของพลเอกประยุทธ์ที่แสดงออกชัดว่าจะอยู่ยาวและกำลังแปรให้กองทัพไทยกลายเป็นสมบัติของตระกูลจันทร์โอชา (อย่างน้อยก็เป็นเจ้าของกองทัพนานนับ 10ปีซึ่งนานพอที่จะสร้างบารมีตลอดการแบบ สฤษธิ์-ถนอม-ประภาสในอดีต) ด้วยการลากพลเอกปรีชาน้องชายขึ้นเป็นผบ.ทบ.

แต่ไม่ว่าฝ่ายใดจะสร้างเอกสารนี้ขึ้นก็ถือว่าไม่เป็นผลดีต่อการถืออำนาจเผด็จการของ คสช.ที่ไม่อาจจะอ้างการเข้าเฝ้าในหลวงหลอกลวงประชาชนได้อีกแล้วและยืนยันได้ว่าความขัดแย้งในราชสำนักยังดำรงอยู่อันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศที่ยังจะตัดสินใจชะลอการเข้ามาลงทุนในไทยออกไปก่อนซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่หนักอยู่แล้วให้หนักยิ่งขึ้น

ผลต่อฝ่ายเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยจะเป็นการปิดประเด็นที่นักวิชาการและแกนนำที่ไร้เดียงสาที่ชอบหลอกตัวเองและเพื่อนๆว่า "โลกสวยทุกอย่างจะจบลงด้วยดีและวังดีกันแล้วอย่าพูดถึงเรื่องวังเลยเพราะกลัวถูกจับ112" เพราะความขัดแย้งที่เป็นจริงดำรงอยู่ตามสภาพนอกเหนือเจตนาความชอบส่วนตัวของเรา

นำเสนอให้เพื่อนๆช่วยวินิจฉัยค่ะ

ดารณี รวีโชติ
เลขากอท.เสรีไทย


•••••••••••••••••••••••
รายงานพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทางกองกิจการในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ขอแจ้งข่าวให้ท่านโปรดทราบ เรื่องพระอาการของ ๙๐๑ ตามจริง เพื่อให้ร่วมกัน ส่งแรงใจถวายพระพร

- - - - - - - - - - 

พระอาการของพระบาทสมเด็จเด็จพระเจ้าอยู่หัวในขณะนี้พระอาการทรงตัว แต่ไม่สามารถนั่งประทับให้พระวรกายตรงมั่นคงได้ คณะแพทย์จึงต้อง ถวายใส่ชุดรัดหลังให้แก่พระองค์ท่าน ตั้งแต่ตอนที่เสด็จแปรพระราชฐาน 2 ครั้งล่าสุด (ที่ผ่านมา)

พระหัตถ์ทั้งสองข้าง อ่อนกำลัง ทรงไม่สามารถแม้แต่จะยกพระหัตถ์ขึ้นมาโบกทักทายให้แก่ประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จได้ ดังนั้น หากต้องมีพระราชหัตถเลขาใดๆ ก็จะทรงลำบากมาก (หมายเหตุ ทางกองงาน ๙๐๔ ไม่แน่ใจว่า ราชเลขานุการฯ หรือราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง หรือกรมวังผู้ใหญ่ท่านใดเป็นจัดแจงการลงพระราชหัตถเลขา เพราะพระองค์ท่านขยับพระหัตถ์ไม่ไหวแล้ว)

ทรงสามารถขยับพระพักตร์ขึ้นลง และทรงขยับพระพักตร์หันไปมาได้เล็กน้อย การกระพริบพระเนตรทรงทำได้ปกติ มีพระสติสัมปชัญญะสมบูรณ์

พระองค์ท่าน ไม่สามารถมีพระราชดำรัสเป็นระยะเวลานานได้ๆ ทรงมีพระราชดำรัสได้เพียงสั้นๆ ทรงเปล่งพระสุรเสียงได้เป็นคำๆ ไม่เป็นประโยค และเป็นไปอย่างลำบาก

ผลการตรวจพระโลหิตพบว่า ผลเป็นปกติ อาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิตดีขึ้นเป็นลำดับ (จากเมื่อเดือนครึ่งก่อนหน้านี้ พระหทัยเต้นสม่ำเสมอ สัญญาณชีพปกติ) คณะแพทย์ให้เสวยพระกระยาหารอ่อนๆ และเสริมสารอาหารให้ทางหลอดพระโลหิต (บ้าง)

- - - - - - - - - - 

เมื่อพระวรกายดีขึ้น คณะแพทย์จะกราบบังคมทูล ให้พระองค์ท่านเสด็จแปรพระฐานอีกครั้ง แต่การที่ประชาชนจะคาดหวังให้พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัส หรือโบกพระหัตถ์ให้ ก็จะเป็นการมิสมควร เพราะทรงประชวรอยู่

คณะแพทย์จำต้องปกปิดพระอาการตามจริงของพระองค์ท่านหลายครั้งแล้ว    ได้ร่วมรับรู้รับทราบโดยพร้อมเพรียงกัน เพราะ ธ ทรงเป็นหลักชัยแก่พสกนิกรชาวไทย 

- - - - - - - - - - 

ข้อสังเกตุที่ควรทราบ และสังเกตุว่า ในปี ๒๕๕๘ นี้ จะเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๙ ปี และในปี ๒๕๕๙ จะเป็นปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี เหตุใดรัฐบาลทหาร คสช. ที่มักกล่าวอ้างถึงพระองค์ท่านเสมอๆ จึงไม่มีการเตรียมการเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญอันเป็นมงคลดังกล่าว ให้สมพระเกียรติยศ 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
พลอากาศเอก รังสันต์ ดิษฐบรรจง

รองสมุหราชองครักษ์

10ตาสว่างสร้างวิกฤตไทยกลายเป็นรัฐล้มเหลว: ตาสว่างที่4: เลขากษัตริย์คือซุปเปอร์ปลัดกระทรวง

นำเสนอต่อมหาชนโดย จอห์น ลี

ตาสว่างที่4: เลขากษัตริย์คือซุปเปอร์ปลัดกระทรวง



เมื่อกษัตริย์ภูมิพลคุมกองทัพและศาล(ตามท่ีกล่าวรูปธรรมไว้ในตาสว่างที่2,3)อำนาจบริหารรัฐจึงอยู่ในกำมือของกษัตริย์ด้วยเหตุนี้รัฐสภาและรัฐบาลที่มาจากประชาชนจึงไม่มีความมั่นคงและโดยพระราชประสงค์ของพระองค์ก็ไม่ชื่นชมต่อระบอบประชาธิปไตยเพียงแต่โลกสมัยใหม่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ดังจะเห็นได้จากตลอดรัชสมัยของพระองค์, พระองค์ก็ไม่เคยแสดงออกใดๆหรือไม่เคยมีพระราชดำรัสใดๆที่ชื่นชมหรือปกป้องระบอบประชาธิปไตยเลยแต่ในทางตรงข้ามพระองค์กลับทรงตำหนินักการเมืองและระบอบประชาธิปไตยในที่สาธารณะอยู่เสมอรวมตลอดทั้งมีการแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งให้ทหารพระราชาทำการยึดอำนาจล้มรัฐบาลประชาธิปไตยอยู่เสมอเช่นเปิดทางให้ประธานองคมนตรีพลเอกเปรม ตินสูลานนท์ ออกมายุยงให้ทหารทำการรัฐประหารเช่นคำกล่าวของพลเอกเปรมที่โด่งดังในช่วงปี2549 เรื่อง "จ๊อกกี้ไม่ใช่เจ้าของม้าแต่ม้าเป็นของเจ้าของคอกม้าดังนั้นม้าไม่ต้องฟังจ๊อกกี้" และก็ตามมาด้วยการรัฐประหาร19 กันยา 2549 และล่าสุดก็กล่าวต่อหน้าคณะของพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร22พฤษภาคม2557ในโอกาสเข้าอวยพรปีใหม่เมื่อต้นปี2558ว่า "พลเอกประยุทธ์ทำการรัฐประหารก็เพื่อพระเจ้าอยู่หัว" และหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานเมื่อเกิดการรัฐประหารตามการชี้นำของประธานองคมนตรีแล้วกษัตริย์ภูมิพลก็เปิดทางให้ประธานองคมนตรีนำคณะผู้ยึดอำนาจเข้าเฝ้าและพระองค์ก็จะลงนามอนุมัติให้โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆและที่สำคัญพระองค์ก็ยังทรงชุบเลี้ยงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารโดยตรงมาตลอดอย่างยาวนานแล้วตั้งแต่นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ในปี2519จนถึงพล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุขในปี2549ในฐานะองคมนตรี


ในการบริหารงานรัฐที่เป็นงานของข้าราชการประจำพระองค์ก็ทำหน้าที่เหมือนนายกรัฐมนตรี,มีคณะองคมนตรีทำหน้าที่เหมือนคณะรัฐมนตรีและมีราชเลขาธิการคือท่านแก้วขวัญ วัชชโรทัยทำหน้าที่เหมือนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโดยนำนโยบายจากวังทั้งหมดรวมถึงโครงการพระราชดำริผลักเข้าไปในทุกกระทรวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงศึกษาธิการ,กระทรวงเกษตร,กระทรวงการต่างประเทศจะมีสายตรงจากสำนักพระราชวังไปเป็นปลัดกระทรวง,อธิบดี,เอกอัครราชฑูต(ในประเทศที่สำคัญที่มีผลประโยชน์ของราชสำนักลงทุนหรือมีพระราชวังที่เชื้อพระวงศ์จะเสด็จไปพักตากอากาศเช่นสหรัฐอเมริกา,อังกฤษ,เยอรมันเป็นต้นและฑูตในประเทศเหล่านี้จะเป็นผู้ใกล้ชิดและทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจฑูตเหล่านี้จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเช่นนายอานัน ปันยารชุณเป็นต้น)รวมถึงการออกแบบโครงสร้างให้คนของวังเข้าไปนั่งเป็นกรรมการคุมนโยบายและใช้งบประมาณของกระทรวงโดยตรงเช่นนายพารณ อิสระเสณา และนายแพทย์เกษม วัฒนชัย(องคมนตรี) นั่งเป็นกรรมการนโยบายทางการศึกษาในกระทรวงศึกษาที่มีฐานะสูงกว่ารัฐมนตรีและไม่ต้องออกตามวาระและทั้งหมดนี้อยู่นอกการควบคุมจากรัฐสภา


เพื่อให้เห็นชัดเจนดังตัวอย่างหนึ่งในหลายร้อยตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่ต้องพูดถึงคือการประชุมคณะปลัดกระทรวงประจำเดือนซึ่งเป็นการประสานงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับสูงที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีปรากฎว่านายแก้วขวัญ วัชชโรทัย ราชเลขาธิการก็เข้าร่วมประชุมด้วยซึ่งแน่นอนที่สุดก็จะได้รับความเกรงใจจากที่ประชุมจนเป็นที่มาของคำว่า"ซุปเปอร์ปลัดกระทรวง"


เมื่อความจริงปรากฎเช่นนี้การปกครองของไทยจึงเป็น"ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช"สมบูรณ์แบบเพียงแต่อยู่ในโลกยุคใหม่กษัตริย์จึงจำเป็นต้องคุมอำนาจอธิปไตยแฝงอยู่ในระบอบรัฐสภาดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมตลอดระยะเวลากว่า50ปีจึงเกิดการรัฐประหารล้มระบอบการปกครองที่มาจากประชาชนอยู่เสมอและก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพระองค์จึงเป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกแต่ประชาชนยากจน?


-------------------------------

วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวลับกรองแล้ว เอกสารลับกอ.รมน.ยอมรับเศรษฐกิจทรุด


18มกราคม2558


สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/



  • น่าสงสารบริษัทโบราณแต่ชอบนำสินค้าหมดอายุออกงาน, เปิดปีใหม่บรรดาองครักษ์นำสินค้ามาแสดง2รอบๆแรกเข็นออกชมซุปเปอร์มาเกตในศิริราช รอบสองพาชมคลองหน้าศิริราชแต่ทุกรอบแสดงบทอ้าปากหวอตลอด



  • ไม่น่าเชื่อเสียงวิจารณ์จากวิทยุใต้ดินอาจารย์สุรชัยกับดีเจซุนโฮมีคนเปิดฟังกว่า100,000วิวดังขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้น16ศิริราชว่ากษัตริย์ภูมิพลใช้ผ้าปิดบังช่วงล่างครั้งก่อนที่ออกโชว์เกิดจากต้องการปิดบังการเจาะท่อให้อาหารและถ่ายของเสียที่ท้อง,ด้วยเหตุนี้การโชว์ชมคลองรอบล่าสุดหมอจึงบริหารใหม่โดยตบแต่งหน้าท้องให้ดูเนียนโดยเอาผ้าคลุมตักออกไปแต่ก็ไม่วายโชว์อาการเจ็บป่วยใกล้ตายคือมือขวากลับพันผ้าหนาเตอะเพื่อปิดบังเข็มที่คาอยู่เพราะเจาะกันจนรูพรุนเส้นเลือดช้ำไปหมดจึงจำเป็นต้องคาไว้แล้วใช้ผ้าพันปิดบัง



  • สายข่าวในวังวิเคราะห์การเข็นสินค้าหมดอายุonly oneออกมาโชว์เป็นยุทธวิธีสาย'เทพถ่างบ่างเปรม'เพราะต้องการเบรกฟ้าชายว่าพ่อยังไม่ตายจะประทับตราลายเซนต์ภูิมิพลอยู่บ่อยๆก็ให้เกรงใจกันบ้าง แต่ก็หลอกได้เฉพาะมวลชนเหลืองที่ตั้งใจโง่เพราะคนในราชสำนักต่างรู้ทั่วกันว่าทั้งหมดเป็นปาหี่ ก็เพราะแค่จะประกาศล่วงหน้ากำหนดเวลาให้บรรดาแม่ยกแห่มายกป้ายเชียร์เป็นหน้าม้ายังทำไม่ได้เพราะจะกำหนดเวลาว่าพระองค์จะทรงฟื้นเมื่อไรเทวดายังเบ้หน้าให้...ถ้าแน่จริงก็ให้หมอเทวดาประกาศล่วงหน้ากำหนดวันว.เวลาน.เลยเพื่อให้คนแห่แหนมารอชมบารมีแล้วเข็นรถนำกษัตริย์และราชินีออกโชว์ตัวพร้อมกันเรียกเรตติ้งความเชื่อมั่นให้กลับมา,หากทำได้เช่นนี้แล้วแกนนำสปท.จะยกมือกราบ



  • ด้านฟ้าชายก็ไม่เบาหลังจากน้องสาวเทพถ่างเต้นระบำอีเดียตโชว์เพลง"ขอใจเธอแลกเบอร์โทร"ของหญิงลี ศรีจุมพล หาคะแนนนิยม ก็ออกคลิปหาคะแนนแสดงความเป็นพ่อกับทีปังกรโดยเปิดคลิปพาลูกชายไปเที่ยวห้างในเยอรมันและคลิปพาลูกชายเล่นสกีหิมะเพื่อสร้างภาพครอบครัวอบอุ่นโดยไม่ต้องมีแม่ศรีรัศมิ์...ทั้งหมดนี้มันถี่กระชั้นจนวิเคราะห์เป็นอื่นไม่ได้นอกจากการแสดงของลิเกคณะศิษย์นายทองด้วง




  • มาดูข่าวเจาะวงในสายกอ.รมน.ด้านสถาบันกษัตริย์กันบ้าง...ขอให้ญาติมิตรนายอำนวย แก้วชมภูหรือ"วู๊ดไซด์"ณ.นิวยอร์ค คลายความเศร้าโศรกได้เพราะการจากไปของวู๊ดไซด์มีความสำคัญถึงขั้นกองประมวลข่าวสูงสุดจากกอ.รมน.ต้องทำรายงานสถานการณ์ลับสุดยอดลงวันที่9มกราคม 2558ถึงพลเอกเปรมประธานองคมนตรีเพราะถือเป็นเหตุการณสำคัญที่ต้องรับรู้



  • หยุดข่าวปจว.ทางออนไลน์ที่ว่ากระทรวงไอซีทีและกสทช.ของไทยได้รับความร่วมมือจากเฟซบุ๊คเพื่อจะใช้112ดักจับสมาชิกกันเสียที...เพราะจากรายงานกอ.รมน.ถึงเปรมได้ยอมรับอย่างหน้าแห้งๆด้วยข้อความว่า


     "สำหรับการเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันกษัตริย์นั้นหลังจากผู้ให้บริการเฟสบุ๊คไม่ยอมส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางป้องกันและดำเนินการกับผู้โพสต์ข้อความเข้าข่ายหมิ่นกษัตริย์ในเฟสบุ๊คตามคำขเชิญของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงฯ(กสทช.)เมื่อ28 ธันวาคม2557ส่งผลให้มีการเชิญชวนให้ยกเลิกการใช้เฟสบุ๊คของผู้จงรักภักดีเพื่อตอบโต้...สะท้อนถึงความล้มเหลว/พ่ายแพ้ในการปฏิบัติการณ์ข้อมูลข่าวสารทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่มผู้จงรัภักดีปกป้องสถาบันกษัตริย์"


  • ข้อความอย่างนี้ชัดใหมๆ...มาดูข่าวเจาะวงในกอ.รมน.ด้านเศรษฐกิจกันหน่อย...รัฐบาลคสช.ยุทธ์เหล่จะโกหกประชาชนต่อไปได้อีกนานเท่าไรว่าเศรษฐกิจกำลังดีการส่งสินค้าออกไปยุโรปไม่มีปัญหา,ก็ในเมื่อเอกสารลับสุดยอดที่อยู่ในมือสปท.หน้าแรกย่อหน้าที่สามยืนยันว่า"การยกเลิกการให้สิทธิทางศุลกากรตามโครงการสิทธิพิเศษศุลกากรเป็นการทั่วไป(จีเอสพี)แก่ไทยมีผลต่อสินค้าไทยที่ถูกตัดสิทธิ์6,200รายการคิดเป็นมูลค่าประมาณ30,000ล้านบาท"และในหน้าสองย่อหน้าที่สองภายใต้หัวข้อว่า"ข้อพิจารณา"ยืนยันว่า"ภาคเอกชนยังกังวลในทิศทางเศรษฐกิจปี2558จากปัจจัยผันผวนของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ....เสนอให้มีการเตรียมรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการส่งออกสินค้าอาทิ น้ำตาลและข้าวซึ่งมีสัญญานไม่สดใส"



  • ดูจากข้อมูลจริงที่ลูกน้องคสช.รายงานตรงอย่างนี้เห็นทีตาประยุทธ์คงจะเหล่หนักขึ้นเพราะนอกจากยางราคาตกต่ำเป็น3กิโล100บาทแล้ววันนี้ข้าวนาปรังราคาก็ตกลงในอัตราเดียวกันคือ3เกวียนราคา10,000บาทเช่นกัน...นรกใกล้มาเยือนแล้ว...ยุทธ์เอ๋ยหายใจลึกๆแล้วเดินหน้าลากรถเข็นคุณพ่อมึงต่อไป. แต่พวกมึงอย่าลืมต้องเร่งหาเงินเข้ากระเป๋ากันให้มากๆและเลือกประเทศที่จะต้องลี้ภัยและเตรียมซื้อที่ดินไว้ให้ลูกเมียมีที่หลบภัยในอีกไม่นานนี้แน่นอน




  • ไม่ต้องตกอกตกใจกับการซักฟอกเพื่อถอดถอนยิ่งลักษณ์,สมศักดิ์,นิคมของสนช.(สภาสุนัขรับใช้แห่งชาติ)สปท.ไม่ขอลงรายละเอียดเนื้อหาที่พวกสุนัขรับใช้วิ่งไล่งับเพราะไร้เหตุผลที่คนทั่วไปจะรับได้และท่านทั้งหลายเห็นข่าวกันมากแล้ว,สปท.ขอจับประเด็นทำนายผลล่วงหน้าดีกว่าโดยขอรับรองว่าไม่มีปัญหาเพราะข่าวเจาะลึกแจ้งว่ามีคำสั่งลับให้ทำแค่ด่าเล่นปาหี่กันไปเนื่องจากคสช.อยากเปิดทางถอยไว้บ้างเพราะถ้าจะบ้าไล่ฆ่ากันจนต้องจนตรอกตามอารมณ์โหดนักฆ่าแบบป๋าเปรมเกมส์การเมืองจะเทไปทางยุทธศาสตร์ของเปรมก็จะทำให้คสช.ต้องแบกของหนักโดยไม่จำเป็นแต่หากทนแรงกดดันไม่ไหวก็คงแค่เล่นงานสมศักดิ์และนิคมซึ่งก็ต้องลามถึงล้างบางสส.และสว.ที่ร่วมลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญด้วยแต่ก็เป็นเรื่องประหลาดหลุดโลกที่คนยื่นขอแก้ตามครรลองกลับมีความผิดร้ายแรงส่วนพวก'แม่ง'ฉีกรัฐธรรมนูญกลับอยู่สบาย



  • มาติดตามดูผลการทำนายในอนาคตปลายเดือนนี้ว่าจะออกมาอย่างไร...แล้วพบกัน//



-------------จบ-----------

"ปฎิรูปลวงโลกของศักดินาไทย" ความเจ็บปวดของ "ป้าเพ็ญ สวีเดน"



Fri, 01/16/2015 - 13:35 jom / Thaivoicemedia.com  
ป้าเพ็ญ เจ้าแม่แห่งโซเชี่ยลมีเดีย ประกาศต่อสู้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย ด้วยประสบการณ์อันเจ็บปวดจากความจนแสนสาหัสในประเทศไทย พร้อมเรียกร้องความเป็นคนที่เท่าเทียม สิทธิเสรีภาพตามวิถีทางประชาธิปไตย ป้าเพ็ญให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับ Thaivoicemedia เกี่ยวกับมุมมองของผู้หญิงไทยที่หนีความจนไปเป็นภรรยาฝรั่ง จนถูกเย้นหยัน ดูถูกต่าง ๆ นานา เมื่อเธอมีโอกาสยืนขึ้นในประเทศที่มีเสรีภาพ เธอประกาศสู้เพื่อคนจนในประเทศไทย นี่เป็นบางส่วน บางตอน จากการสัมภาษณ์ ( รอชมฉบับเต็มได้ เร็ว ๆ นี้ )

☆หากเวปคุณจอมถูกขยะคสช.บล็อคให้ดูผ่านยูทูป

http://youtu.be/ij7OBxdU0Ns


วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวกอท.เสรีไทย:เศรษฐกิจไทยใกล้ฝีแตกของจริง


------------------

ไม่พอ 8 เดือนเผด็จการทหารคสช.ทำให้การค้าปลีกที่เป็นฐานรากตัวชี้วัดเศรษฐกิจไทยของจริงตกต่ำสุดในรอบ20ปี, ขอให้พี่น้องจำชื่อและนามสกุลของ “นายทุน-เจ้าสัว” ทั้งหมดตามข่าวนี้ที่เข้าพบพลเอกประยุทธให้ดีเพราะพวกมันคือกลุ่มนายทุนอำมาตย์ของจริงที่ร่วมมือกับทหารพระราชากดขี่ประชาชนยาวนานนับศัตวรรษ, ทุกครั้งที่ใกล้และหลังการยึดอำนาจล้มระบอบประชาธิปไตยเราจะเห็นพวกนี้อยู่ใกล้ชิดกับคณะผู้ยึดอำนาจ, ในเวลาปกติเราก็จะเห็นพวกนี้ในข่าวสองทุ่มที่เอาเงินส่วยที่ขูดรีดประชาชนไปถวายให้ในหลวงและเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์เป็นประจำ, หลักฐานล่าสุดที่มันร่วมมือประกอบอาชญากรรมทำร้ายประชาชนคือ

1.เข้าร่วมและบริจาคเงินให้ม๊อบอันธพาลกปปส.ของปชป.สุเทพร่วมก่อจราจลปิดกทม.สร้างสถานการณ์(ก่อนการรปห.ล้มรัฐบาลทักษิณ19กันยา2549ก็ทำเช่นนี้)

2.ข่าวนายเจริญเบียร์ช้างจ่ายเงิน600ล้านบาทให้เพื่อช่วยการยึดอำนาจในรูปของการซื้อที่ดินพ่อไอ้ยุทธเหล่ราคาแพงพิเศษ(ซึ่งก็คือใบเสร็จรับเงินบริจาคช่วยการยึดอำนาจใบใหญ่ใบหนึ่งและยังมีอีกหลายใบที่นายทุนเหล่านี้จ่ายเงินให้แต่ยังไม่หลุดให้เห็น)

3.ผลจากการทำเลวของพวกมันทำให้วันนี้ราคายางกลายเป็น3โลร้อยและข้าวเปลือกนาปรังกลายเป็น3เกวียนหมื่นและราคาผลผลิตทางการเกษตรเกือบทุกตัวตกหมด

4.ต่อไปอีกไม่นานท่านจะพบข่าวตัวเหี้ยพวกนี้จะรวยยิ่งขึ้นและประชาชนจะยิ่งยากจนลงจากราคาผลผลิตที่ตกต่ำเพราะพวกมันคือกลุ่มทุนผูกขาดโบราณ(นายทุนธนาคารและการเกษตรใหญ่สุดที่ปิดกั้นกลุ่มทุนสมัยใหม่ในการแข่งขันเสรีในการพัฒนาของโลกสมัยใหม่ที่พวกมันขัดขวางไม่ยอมให้ไทยเป็นรัฐที่ทันสมัยเหมือนอารยะประเทศที่ต้องเดินหน้าด้วยระบอบเสรีประชาธิปไตย)และตามมาด้วยสถิติคดีอาชญากรรมลักวิ่งชิงปล้นจะมากขึ้น

5.วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่กำลังส่อเค้าแต่พวกมันจะรวยขึ้นบนทรากปรักหักพังเหมือนวิกฤติปี2540และการทุจริตครั้งใหญ่เช่นกรณีปปรส.ที่รัฐสูญเสีย800,000ล้านบาทโดยปปช.ปล่อยให้ขาดอายุความ

☆คงจำได้ที่กลุ่มทหารยังเติร์กทำรัฐประหารล้มพลเอกเปรมแกนนำระบอบอำมาตย์ตัวจริงโดยพ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตขึ้นบัญชีจับตัวนายทุนลูกสมุนอำมาตย์กลุ่มนี้แต่ล้มเหลวเพราะเปรมหนีไปกับในหลวงและราชินีไปอยู่ที่โคราชได้

☆ประชาชนและทหารผู้รักชาติควรจะสมน้ำหน้าพวกมันในการประชุมร้องโอดครวญตามข่าวนี้หรือร้องให้กับการพังทะลายของบ้านเมืองหรือควรจะทำอะไรกับสถานการณ์ที่ใกล้ผลัดเปลียนแผ่นดินเช่นนี้???

ดารณี รวีโชติ
ผอ.กอท.เสรีไทย
14มกราคม58

http://thaipublica.org/2015/01/prime-minister-discussed-with-the-business-sector/

•ช่วยกระจายข่าวนี้ตามสายงานของท่านเพื่อสร้างความเข้าใจระบบการหากินบนหัวประชาชนของกลุ่มทุนอำมาตย์ใหญ่ร่วมกันที่เป็นรากเง่าของความยากจนและความล้าหลังของประเทศด้วยคะ

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

แฉเล่ห์ลวงของคณะรัฐประหาร เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ

บทความนี้ เว็บนี้ โดนบล๊อคแน่นอน รีบอ่านด่วน!



สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations) ลงบทความ (13 มค 2558) แฉเล่ห์ลวงของคณะรัฐประหาร ที่จะเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจ รวบอำนาจไว้ที่คณะทหาร และเป็นรัฐธรรมนูญที่จะกีดกันไม่ให้ฝ่ายทักษิณเข้ามามีอำนาจในสภาได้อีก 

ไม่ใช่แค่นั้น บทความนี้ ยังได้เปิดโปงออกมาว่ารัฐธรรมนูญใหม่นี้ จะมีกลไกที่กีดกันไม่ให้รัชทายาทขึ้นสืบราชบัลลังก์ เพราะเป็นผู้ที่เหล่าชนชั้นสูงชิงชัง

Thailand’s Next Constitution Becomes Clearer 

http://blogs.cfr.org/asia/2015/01/13/thailands-next-constitution-becomes-clearer/
----------------------------------

รัฐธรรมนูญฉบับต่อไปของไทย กำลังชัดเจนมากขึ้นทุกที

โดย โจชัว เคอลันซิค

แม้ว่าการตกลงเจรจาภายในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ซึ่งคัดเลือกมากับมือโดยฝ่ายทหารไทย หลายเรื่องจะได้ดำเนินไปโดยไม่มีสาธารณชนเข้ามามีส่วนร่วม เค้าโครงของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็กำลังมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อคณะกรรมการยกร่างฯได้เริ่มมีการพบปะกัน  ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บางประเด็นของร่างรัฐธรรมนูญ ได้ถูกหยิบยกมาเป็นข่าว --และถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เป็นระยะๆ– โดยสื่อมวลชนไทย และเป็นที่ชัดเจนว่า แม้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จะถูกเลือกมาโดยทหาร กรรมการบางคน ก็มีความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำร่าง ที่ไม่โปร่งใส และความเป็นไปได้ที่สถาบันด้านประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปนี้ จะตกอยู่ในสภาวะถอยหลังลงคลอง เป็นไปได้ที่ กรรมการร่างฯ ที่รู้สึกกังวลเหล่านี้ ได้ปูดข่าวออกไป จนถึงหูสื่อมวลชน เกี่ยวกับบางประเด็น ที่เกิดการถกเถียงกันมากที่สุดในรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปที่อาจมีออกมา อย่างเช่น มาตราที่เปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง เป็นต้น ถึงแม้ว่าการที่ข่าวรั่วออกมาเช่นนี้ คงไม่ได้ทำให้คณะผู้ยกร่างฯ ส่วนใหญ่เปลี่ยนความคิดแต่อย่างใด เพราะพวกนี้เป็นพวกที่เข้าข้างฝ่ายทหารอย่างสุดลิ่ม จนถึงขนาดที่พวกเขาจะทำทุกอย่างที่กองทัพบอกให้ทำ แต่ข่าวรั่วนี้ ก็ได้ทำให้สาธารณชนได้มองเห็นถึงวงใน ว่ารัฐธรรมนูญฉบับหน้าจะนำมาซึ่งอะไร (ตามระเบียบข้อบังคับ ผู้สื่อข่าวถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการ และไม่ให้รายงานเกี่ยวกับการหารือในที่ประชุม)

ในแง่หนึ่ง ก็คือ บทบัญญัติที่อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์บางอย่างนั้น ดูเหมือนว่าจะมีอย่างแน่นอน หลายคนที่เชื่อมต่ออยู่กับคณะกรรมการยกร่างฯ พูดกันอย่างลับๆ ว่าการเปิดให้นายกไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง เป็นเป้าประสงค์สำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  เหลือก็แต่วิธีการและภายใต้สถานการณ์เช่นใด ที่คนคนนี้จะถูกคัดเลือกขึ้นมาเท่านั้น ที่ยังไม่ชัดเจน นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ที่น่าจะเกิดขึ้นนี้ ถูกมองโดยทหารและพวกพ้อง ว่ามีความสำคัญต่อการหยุดยั้งพรรคการเมืองของฝ่ายทักษิณ ที่จะกลับมามีอำนาจในการเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อาจได้รับการแต่งตั้ง โดยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ ขอให้นอกเหนือไปจากการเมืองในระบบเลือกตั้งตามปกติ พวกชนชั้นสูงเขาไม่ชอบอะไรก็ตามที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำ  เกือบจะแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง จะเป็นคนที่ทหารและพวกพ้องไว้ใจให้ทำหน้าที่คอยขัดขวางการออกกฎหมายใดๆ ของฝ่ายทักษิณในสภา 

ทหารและคณะยกร่างรัฐธรรมนูญ รู้แน่ว่า ไม่ว่าจะออกแบบการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร พรรคของฝ่ายทักษิณก็จะชนะอีกอยู่ดี  คณะผู้ยกร่างฯ ได้โยนความคิดเรื่องระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ ออกมาหลายแบบ และผู้เขียนก็ยังเชื่อว่าในที่สุด รัฐธรรมนูญก็จะออกมาในแบบที่สร้างให้ประเทศไทยมีระบบตัวแทนแบบสัดส่วนหลายพรรค ตามแบบของเยอรมนี แต่แม้ว่าจะเป็นระบบตัวแทนแบบสัดส่วนหลายพรรคอย่างในเยอรมนีก็ตาม พรรคของฝ่ายทักษิณก็จะยังคงได้สัดส่วนของผู้แทนในสภา จำนวนมากเท่าๆ กับที่เคยได้ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเก่าอยู่ดี (เว็บ Bangkok Pundit ได้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของประเทศไทย ภายใต้ระบบแบบเยอรมันเมื่อเทียบกับระบบตัวแทนแบบสัดส่วนแบบก่อนของไทย ซึ่งจัดสรรอำนาจให้กับคะแนนเสียงแบบแบ่งเขตแทนที่จะเป็นแบบเลือกพรรค มากกว่าในระบบผู้แทนแบบผสม)

นอกจากนี้ เกือบจะแน่นอนว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะให้อำนาจกับศาลของไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกด่านหนึ่ง ที่มีศักยภาพที่จะยันกับอำนาจของพรรคของฝ่ายทักษิณในสภาครั้งหน้า แม้ว่าในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ศาลสำคัญๆ จะได้เอนเอียงมาทางฝ่ายทักษิณในระยะสั้นๆ แต่เมื่อเหล่าผู้พิพากษาได้เกิดความกลัวขึ้นมา ว่าทักษิณกำลังจะรื้อถอนกลุ่มอำนาจเก่าของไทย นับตั้งแต่กลางทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา พวกศาลเกือบทั้งหมด จึงเป็นปฏิปักษ์กับพรรคฝ่ายทักษิณ จนถึงขนาดที่คนไทยพูดกันว่า พวกศาลได้ทำ “รัฐประหารโดยตุลาการ (judicial coup)” แม้ว่าจะถูกโจษกันขนาดนั้น ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ศาลระดับสูง ซึ่งรวมถึงศาลธรรมนูญด้วยนั้น ก็ยังจะได้ความแข็งแกร่ง และมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ ตามที่รายงานกันในสื่อของไทยและจากการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับหลายคน ที่ใกล้ชิดกับคณะยกร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ศาลจึงจะได้อำนาจมากยิ่งขึ้นเพื่อจะได้คอยคุมรูปแบบทางการเมืองในเชิงรุกได้มากกว่าปกติ อย่างที่ในระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคงมากที่สุดเขาทำกัน 

การสร้างความแข็งแกร่งให้กับศาลรัฐธรรมนูญ และทำให้ศาลเป็นเครื่องมือปลดล๊อค เมื่อเกิดทางตันทางการเมืองที่ตีบตันที่สุดนี้ ยังมีอีกจุดมุ่งหมายหนึ่งด้วย  นั่นคือ ให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถทำหน้าที่แทนกษัตริย์ไทย ในฐานะของการเป็นผู้ชี้ขาดสุดท้ายในยามที่เกิดทางตันทางการเมือง ซึ่งนี่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามกุฎราชกุมาร ผู้ซึ่งพวกชนชั้นสูงต่างชิงชังกันอย่างมากมายนั้น จะไม่ได้เฉียดเข้ามาหาความสำราญกับอำนาจ ที่กษัตริย์คนปัจจุบัน ภูมิพลเกาะกุมไว้ ในช่วงที่เป็นรัชสมัยของกษัตริย์ภูมิพล

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

สื่อนอกชี้เผด็จการทหารอยู่ยาวอาศัยเงื่อนไขวัย87ปีป่วยหนักและใกล้สิ้นพระชนม์ของร.9เป็นเงื่อนไข


------------------------

นักวิเคราะห์ระดับโลกฟันธงคณะทหารผู้ยึดอำนาจประเทศไทยอยู่ยาวโดยเตรียมสืบทอดอำนาจในรัฐธรรมนูญใช้เงื่อนไขวัย87ปีของกษัตริย์ที่ป่วยหนักและใกล้สิ้นพระชนม์เป็นข้ออ้างและอาศัยสถานการณ์นี้กำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองโดยใช้ความวิตกกังวลของประชาชนเรื่องใกล้สิ้นรัชกาลเป็นเครื่องมือในการกดขี่ริดรอนเสรีภาพของประชาชน

ในบทความยังอ้างถึงหนังสือเรื่องThe King and l ที่ยืนยันว่า ระบอบการปกครองไทยวันนี้ไม่ต่างจากอดีตจึงมีการแย่งยึดอำนาจจากกลุ่มขุนนางต่างๆโดยการเห็นชอบของกษัตริย์อยู่เสมอด้วยเล่ห์กลมากมาย
 ชี้ว่าวันนี้คนไทยมีเสรีภาพน้อยกว่าคนพม่าและฟันธงว่ามีเพียงทางเดียวที่จะออกจากวิกฤตนี้ได้คือประชาชนคนไทยต้องลุกขึ้น"ปลดปล่อย" ตัวเอง

อ่านรายละเอียดในบทความ "เผด็จการทหารไทยยืดอายุการยึดอำนาจ (Thailand's Military Dictators Extend Hold on Power)" ใน The World Post โดย Doug Bandow จากสถาบัน Cato Institute ตีพิมพ์วันที่ 12 มค 2558
http://www.huffingtonpost.com/doug-bandow/thailands-military-dictat_b_6456568.html

☆นักการเมืองและผู้รักปชต.เลิกฝันหวานกับการเลือกตั้งที่เป็นธรรมที่เผด็จการทหารคสช.จะคืนให้ได้แล้ว,ขอให้เตรียมจิตใจเตรียมการจัดตั้งเพื่อคว่ำบาตรรัฐบาลด้วยรูปการต่างๆเช่นการไม่เสียภาษีหรือเสียให้น้อยที่สุดในการยื่นแบบฟอร์มการเสียภาษีเดือนมีนานี้เพื่อให้ระบอบเผด็จการโบราณนี้พังเพื่อจะสร้างระบอบใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยเสมอภาคและเจริญรุ่งเรือง

วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558

ความจริงแห่งกาลเวลากำลังไล่ล่าระบอบเผด็จการโบราณไทยขณะนี้ใน USA



--------------------------

ราชสำนักไทยหลอกลวงประชาชนมานานปีว่ากษัตริย์ไทยเป็นเทพยาดาผู้ปราณี,ใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนปีๆหนึ่งมากกว่าหมื่นล้านบาทโฆษณาสร้างภาพความเป็นเทวดาใจบุญแต่ปล่อยให้ประชาชนอดอยากยากจนกดการศึกษาให้ประชาชนโง่จนโงหัวไม่ขึ้น, คนยากจนไม่มีทางออกจึงเกิดคดีอาชญากรรมปล้นฆ่า, คนจนออกเร่ขายตัวแลกอาหาร, ใครที่ฉลาดแสวงหาความจริงมันก็ใช้กฎหมายเผด็จการม.112, ศาลเผด็จการทหารศาลเดียวจอดกับกองทหารสุนัขรับใช้ข่มขู่กดหัวประชาชน, ทั้งๆที่ความจริงเนื้อแท้ของระบอบเผด็จการกษัตริย์ไทยเป็นระบอบที่กดขี่และกดหัวประชาชนอย่างไร้ศีลธรรมที่ล้าหลังที่สุดทั้งอดีตและปัจจุบัน,ด้วยเหตุนี้คนที่ตาสว่างจึงเสียสละเสี่ยงตายเสี่ยงคุกลุกขึ้นสู้สลัดความสุขทิ้งชีวิตการงานที่ดีออกสู้รบทั้งในและต่างประเทศ

ความจริง,กาลเวลาและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าได้เปิดเผยความเลวร้ายของระบอบกษัตริย์ไทยมากมายล่าสุดกำลังเปิดโปงรัชกาลที่4 ทวดของภูมิพลอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมืองซานดิเอโกรัฐแคลิฟอเนีย, ว่า ร.4 มิได้เป็นเทพแต่โหดร้ายเกินมนุษย์แม้จะบวชมานาน, มีความมักมากในกามารมณ์ผิดปกติมนุษย์เหมือนพวกมันทุกวันนี้มีหลักฐานคือพรากเด็กลูกชาวบ้านอายุ11ปี ที่มีรูปร่างสวยงามมาเลี้ยงเป็นเมียชื่อเจ้าจอมทับทิมและสุดท้ายฆ่าเมียโดยเผาทั้งเป็นพร้อมพระสงฆ์เพราะเชื่อว่าลักลอบเป็นชู้กัน(เหมือนกับที่มันเนรเทศยุวธิดาและหลานในไส้มันวันนี้) ซึ่งเป็นตอนสำคัญของบันทึกประวัติศาสตร์ของนางแอนนาเลียวโนเวนหญิงหม้ายชาวอังกฤษที่เข้ามาประเทศไทยพร้อมลูกชายชื่อ ดช.หลุยที. เลียวโนเวน(ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัทหลุยที. เลียวโนเวน จำกัด ดำเนินการค้าในประเทศไทยและยังประกอบกิจการจนถึงปัจจุบัน) โดยราชสำนักไทยจ้างนางแอนนามาสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกและนางสนมพร้อมมเหสีในรัชกาลที่4, ซึ่งบันทึกนี้ได้ถูกเปิดเผยในนามของหนังสือที่ขายดีมากชื่อ "นางแอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม" และถูกทำเป็นบทละครชื่อ The King and I เป็นบทละครที่โด่งดังที่สุดในโลกตะวันตกโดยแสดงในโรงละครที่ลอนดอน, บอร์ดเวย์ในนิวยอร์คติดต่อยาวนานกว่า20ปี, รวมทั้งฮอลลิวู๊ดได้นำไปสร้างเป็นภาพยนต์ถึง3 เวอร์ชั่นตั้งแต่หนังขาวดำจนเป็นภาพยนตร์สมัยใหม่โดยมี ยูน บินเนอร์ ดาราดังหัวล้านแสดงบทรัชกาลที่4 และล่าสุดถ่ายทำใหม่ที่มาเลย์เซียมี โจวเวินฟะ แสดงนำ(บริษัทผู้สร้างขอถ่ายทำในไทยแต่ราชสำนักไทยไม่ยอมวันนี้สถานที่ถ่ายทำพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทจำลองซึ่งเป็นฉากสำคัญในบทภาพยนตร์ผู้สร้างได้ยกให้ประเทศมาเลย์เซียกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังในมาเลย์เซีย)

เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดนี้คนไทยถูกโกหกว่าไม่มีนางแอนนามาเป็นครูสอนจริงและราชสำนักไทยพยายามลบประวัติศาสตร์ไทยที่มีบันทึกจริงออกด้วยการห้ามพิมพ์ห้ามขายหนังสือและห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์ในประเทศไทยและบันทึกนี้กลายเป็นหนังสือต้องห้าม

คนไทยน่าสงสารจริงๆ แต่ราชวงศ์ไทยน่าสงสารยิ่งกว่าเพราะกำลังดิ้นรนปิดฟ้าด้วยฝ่ามือและกำลังยื้อความจริงกับเทคโนโลยีและไม่ยอมปรับตัวเข้ากับระบบโลกของความเสมอภาคและประชาธิปไตยดังเช่นกษัตริย์ประเทศที่เจริญแล้ว



แม้จะปิดบังอย่างไรแต่ "นางแอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม" ความจริงทางประวัติศาสตร์กำลังกลับมาหลอกหลอนอีกแล้วจากข่าวหนังสือพิมพ์ Time ตีพิมพ์ในเมืองซานดิเอโกสหรัฐอเมริกาเป็นข่าวหน้า1 ว่าจะมีการแสดงละครเวทีที่โด่งดัง The King and I อีกครั้งที่โรงละคร Welk ในเมืองซานดิเอโก, จะแสดงตั้งแต่เดือน มกรา-เมษา 2015 สื่อท้องถิ่นเมืองซานดิเอโกบรรยายเนื้อเรื่องว่าเป็นเรื่องราวของแอนนาผู้มีความคิดสตรีนิยมกับกษัตริย์ผู้มากชู้หลายเมียและเจ้าอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายและโหดร้าย(ดูรายละเอียดจากข่าว)

http://timesofsandiego.com/arts/2015/01/11/yes-siam-welk-theatre-welcomes-king/

*เผด็จการโจรกบฏ คสช. ผู้ที่ยึดอำนาจเพื่อรับใช้ในหลวง(ตามคำชมของพล.อ.เปรม)จะส่ง นายพลรมต.ต่างประเทศ หรือ ไพบูลย์ คุ้มฉายา หรือประวิตร วงศ์สุวรรณไปฟ้องข้อหา112เพื่อขอผู้แสดงละครและผู้อำนวยการสร้างบทให้สหรัฐส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้มาดำเนินคดีในไทยมั้ยเนี่ย??? ถ้าอเมริกาไม่ยอมก็ตัดความสำพันธ์เลย 555


ความจริงและเวลากำลังไล่ล่าระบอบภูมิพลแล้ว



วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

เปิดเผยแผนปฏิบัติการ 3 ล้านล้าน ที่ คสช. ไม่อยากให้ประชาชนรู้



มันจะอะไรกันนักหนาวะ โดยเฉพาะ ประจิน จั่นตอง
กำชับ สนข.ไว้เลยนะว่า ห้ามหลุด ห้ามเผย
นี่ไปเก็บได้จากถังขยะ แถวด่วนยมราช เอิ้กๆๆๆ

http://www.mediafire.com/download/ylj5qlxe0fou9fk/Action+Plan+3+trillion+baht+-+secret+document.pdf

เอกสารต้องดาวน์โหลด ขนาด 36.76 Mb

ใช้คอมพ์สะดวกกว่า แต่ถ้าสมาร์ทโฟน มีโปรแกรมอ่านพีดีเอฟ ก็โหลดได้ปกติ พวกตระกูล iphone ipad ก็โหลดเข้าไปเป็น ebook เลย

ในบางกรณี โปรแกรมสแกนไวรัส จะบอกว่า โหลดไม่ได้ ก็ปิดมันก่อนแล้วดาวน์โหลด จากนั้น ก็ดาวน์โหลดได้ตามปกติ แล้วโหลดเสร็จ จึงแอคทีฟสแกนไวรัสอีกครั้ง

ปล. ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ต้องโหลด เพราะว่า เอกสารจากเพจกู คนโหลดไปเป็นแสนคน ถ้ามีใครติดไวรัส คงมาโวยวายกูนานแล้ว จึงเรียนมาเพื่อทราบ โดยทั่วกัน

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวลับกรองแล้ว 8 มกราคม 2558

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวีย
โดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย (สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/



  • ปีใหม่เริ่มต้นส่งกลิ่นเน่าในกองทัพทำให้ต้องจับตาการเดินหมากของ ยุทธ์เหล่ เดินเบี้ยตัวเดียวรู้เส้นทางบิดเบี้ยวที่จะเดินสู่รัชกาลที่10 ที่กำลังเป็นจุดวิกฤติ ขณะนี้คือการโยกย้ายกลางปีที่จะดัน ว่าที่ผบ.ทบ.คนนามสกุลเดียวกันมานั่ง รองผบ.ทบ.แทน  พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เพื่อนอนรอยิงประตูผบ.ทบ.และแสดงบารมีของพี่ตู่ตาเหล่เต็มๆ...โปรดติดตาม

  • รอยปริกองทัพมีจริงแต่หากใครอิงข่าวนี้แต่ด้านเดียวว่าจะมีการย้าย  3 นายพล จะหลงทางเพราะของจริงมีสองด้านคือมีคลื่นในกองทัพที่ไม่พอใจทหารผู้ใหญ่นั่งถ่างขาทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีและยังขี่คอทหารในกองทัพที่สื่อไทยให้จับตา " ฉัตรชัย-ไพบูลย์-สุรเชษฐ์ " มีมูลจริง แต่เป็นเรื่องลิงหลอกเจ้าแบบลับลวงพรางแต่อีกด้านหนึ่ง ยุทธ์เหล่ กำลังใช้สถานการณ์นี้สวาปามอำนาจเต็มๆ

  • คนที่จะลุกจากเก้าอี้จริงๆเห็นจะเป็นเพื่อนพี่ชายใจดีมีสตางค์หากินเลี้ยงกันมานานจนไว้วางใจให้เป็นรัฐมนตรีคุมการค้าคือฉัตรชัย... ต้องสงสัยก่อนว่าทำไมเป็นทหารแต่ดันให้มานั่งเป็นพ่อค้าเพราะประวัติความเป็นมานั่งอ้าขาหาสตางค์อยู่โทรทัศน์ช่อง 5 มาก่อน

  • พลเอกฉัตรชัยเตรียมทหารรุ่น 12 เพื่อนเลิฟร่วมรุ่นกับยุทธเหล่ที่ชอบเงินเป็นหลักแต่เรื่องรบเป็นรองจึงยอมเป็นรองผบ.ทบ.อยู่ใต้บังคับบัญชาของ พลเอก อุดมเดช สีตะบุตร ที่เป็นน้องรุ่น14 แต่โดยดีด้วยเหตุนี้เมื่อครั้ง ยุทธเหล่ เป็น ผบ.ทบ.ก็รู้นิสัยจึงตั้งให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ช่อง 5 นั่งหาเงินและเมื่อยึดอำนาจจึงแต่งตั้งให้นั่งถ่างขาเป็นรัฐมนตรีว่าการการค้าหาสตางค์ที่กระทรวงพาณิชย์...เมื่อรู้เส้นทางเดินกันมาอย่างนี้มีหรือที่ ฉัตรชัย จะไม่ปันใจให้น้อง ปรีชา จันทร์โอชา มานั่งถ่างขาในตำแหน่งรองผบ.ทบ.แทนตนล่วงหน้าก่อนสัก 5 เดือนเพราะอย่างไงๆก็ต้องไปในเดือนกันยานี้แน่นอนเพราะเกษียณอายุ...เมื่อฉัตรชัยมีใจให้ประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะเพื่อนและมีใจให้น้องในฐานะพี่,เมื่อเป็นเช่นนี้มีหรือที่  ยุทธ์เหล่  ทีีหวังจะเท่เป็นนายกฯนานๆจะไม่ตั้งฉัตรชัยไว้ข้างกายตลอดไป

  • เมื่อเป็นอย่างนี้คนที่จะมาแข่งก็จะต้องแห้งตายตั้งแต่ต้นคือ  พลเอก  ธีรชัย นาควานิช ที่เป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. คู่กับ ปรีชา,แม้วันนี้จะเป็นสายทหารเสือราชินีที่เติบโตมาจาก พล.ร. 2 รอ.สายตรงจนมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1ก่อนเป็นผู้ช่วยที่เป็นน้องรักสุดเลิฟของ ' บิ๊กป้อม ' พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ที่ทำตัวเป็นพี่ใหญ่สายทหารเสือราชินี ก็เห็นจะไม่มีทางคงจะต้องหลีกทางให้ปรีชาแต่อาจจะมีรางวัลปลอบใจแถมให้ในตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นน้ำจิ้มเพราะวันนี้การบริหารประเทศไม่ต้องการความสามารถ ต้องการแต่อำนาจปืนเท่านั้นเป็นสำคัญส่วนบ้านเมืองจะฉิบหายก็ช่างหัวมัน

  • พล.อ.ไพบูลย์ นั่งควบรมว.ยุติธรรม, พล.อ.สุรเชษฐ์  ควบ รมช.ศึกษา น้องๆอยากจะดันให้พ้นกองทัพอ้างว่าไม่มีเวลาให้แต่ดูๆไปก็ไม่มีเหตุผลในยุคไร้เหตุผลเพราะ พล.อ.อุดมเดช ผบ.ทบ.ก็นั่งถ่างขาควบรมช.กลาโหม ทำไมไ่ม่มีใครดันให้ออก, ตรงนี้แหละที่โรคท้องอืดท้องเฟ้อจากการแดกไม่เลือกของทหารเริ่มออกพิษออกอาการและจะเพิ่มรอยปริมากขึ้นๆ

  • ไพบูลย์ก็โดดเด่นเป็นมือสังหารทำงานให้ ยุทธเหล่ มาก็ไม่ใช่น้อยไม่เชื่อก็ลองถามดูให้รู้สะว่าเด็กใครที่ยิง ขวัญชัย ไพรพนาที่อุดร, สุรเชษฐ์ ก็มีผลงานใครจะเข้าหาว่าการศึกษาเรื่องเงินๆทองๆก็จะต้องคุยกับท่านผู้นี้แล้วจะให้ออกจากกองทัพง่ายๆได้อย่างไรถามใจตัวเองก่อนนะ ยุทธ์เหล่ เพราะกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง

  • อุดมเดช ก็เป็นน้องรักของ ยุทธ์เหล่ ที่พี่เหล่ยอมหัก ไพบูลย์เอาตำแหน่ง ผบ.ทบ.มาถวายให้น้องอุดมเดชจนเป็นเหตุให้เกิดแผลใจแล้ววันนี้จะบีบให้ ไพบูลย์ พ้นกองทัพอีกก็จะฉีกอกกันเกินไป

  • เมื่อพี่ เหล่ ลงทุนให้น้อง อุดมเดช จนสุดๆแถมด้วยตำแหน่ง รมช.กลาโหมก็เพื่อให้ประกบ พล.อ.ประวิตร ที่คิดเช้าคิดเย็นอยากจะเด่นขึ้นเป็นนายกมั่งมีหรือที่พี่จะขอมือน้องช่วยดึงน้องชายในใส้ขึ้นจ่อผบ.ทบ.จะไม่ได้

  • ภายในเดือนนี้เดือนหน้าก็น่าจะเห็นหน้าว่าที่ ผบ.ทบ.ที่คล้ายหน้า ยุทธ์เหล่ เร็วกว่ากำหนดก็เพื่อจะแสดงบารมีที่ผิดปกติของระบบซึ่งจะยิ่งสร้างบารมีให้พี่ เหล่ สาดแสงแรงขึ้น...ถามว่าจะเป็นเช่นนี้ได้ใหม...?  ถ้าไม่มีบารมีของวังสนับสนุน?

  • สื่อไทยทำได้แค่วิเคราะห์ว่า ยุทธ์เหล่ จะสร้างบารมีที่จะเอาน้องขึ้นเป็นผบ.ทบ.นั้นมันง่ายไปถ้าจะไม่พูดถึงวังเพราะประวัติศาสตร์ทั้งไกลและใกล้ได้บอกแล้วว่าวังไม่เคยปล่อยให้ใครมีอำนาจจนรากงอกทั้งพลเรือนและทหารยิ่งทหารยิ่งไม่ไว้ใจตัวอย่างใหญ่แค่ใหนก็ไล่ออกมาแล้วคือ สุจินดา คราประยูร ตอนยึดอำนาจวังก็เปิดไฟเขียวให้ล้มชาติชาย ชุนหวัณ แต่พอดันจะต่อรากด้วยการลากญาติมาเสวยอำนาจให้เหนียวแน่นจึงถูกแพ้นกบาลแบะ

  • ตำแหน่งนายพลที่จะโยกย้ายและเตรียมใหญ่กันทั้งตระกูลเห็นจะๆวันนี้อย่าลืมต้องมีลายเซนต์กษัตริย์โปรดเกล้าและวันนี้อาจารย์ใหญ่สุรชัย แซ่ด่าน ก็ออกแถลงการณ์ปีใหม่ชัดเจนแล้วว่า กษัตริย์ภูมิพล หมดสภาพแล้วซึ่งก็ตรงกับภาพที่ปรากฎต่อสายตาคือนั่งอ้าปากไม่มีหือส่วนมือก็ไม่ขยับตาก็หลับปรือๆ, อ.สุรชัยจึงไขความว่าท่านเซนต์หนังสือไม่ได้แต่ใช้วิธี " ทอดพระบาท " คือเอาหนังสือไปแตะตีนแล้วเอาไปปั้มชื่อปัญหาสำคัญวันนี้คือใครถือตราชื่อประทับนี้และกล้าที่จะจัดการอย่างกล้าหาญ,หมากตานี้เห็นมีแต่ ฟ้าชาย ดูได้จากการปั๊มตราชื่อ ภูมิพล ให้จ่ายเงินสดจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้ศรีรัศมิ์ 200 ล้านไปอย่างกล้าหาญส่วน เทพถ่างบ่างเปรม จะกล้าเผชิญหน้าใหม ?ตรงนี้ถ้าสื่อใหนไม่อ่านท่านทั้งหลายก็อย่าไปซื้อข่าวมันอ่านให้เสียเวลาและเสียสตางค์

  • ข่าวลับกรองแล้วของ สปท. อ่านก็ฟรีและมีเนื้อหาจากสายข่าวเจาะลึกและอาสาศึกไม่กลัว 112 ก็ขอร้องเพื่อนๆช่วยขยายต่อด้วย...ดังนั้นฟันธงปิดท้ายว่าถ้าโปรดเกล้าตามนี้ก็มีแต่วังต้องเอาด้วยกับยุทธ์เหล่เพียงแต่จะเป็นวังชายหรือวังหญิงที่กล้าประทับตราลายเซนต์คนนั้นก็จะเด่นเห็นชัดว่าน่าจะเป็นคิง10แน่ๆเพราะยุทธ์เหล่ก็จะเทหมดกระเป๋าเอาด้วยเพราะตามรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 2540 ถึงวันนี้หมวดพระมหากษัตริย์กำหนดให้นายกฯ นำชื่อว่าที่กษัตริย์จากเปรมถือเข้าสภาเช่นนี้มีหรือที่ ยุทธ์เหล่ จะถือชื่ออื่นนอกจากพระบรมเข้าสภา?

  • ยุทธเหล่จะทำอะไรถ้าไม่อายฟ้าดินก็ขอให้ได้ยินเสียงเตือนบ้าง...ระวังพลังทหารที่รักชาติบ้านเมืองจะก่อตัวร่วมกับประชาชนโค่นล้มเหล่แบบ14 ตุลา16 ก็แล้วกันและวันนี้แม้จะถีบให้เหล่รับไปเต็มๆแต่ผู้เดียวแต่รับรองว่าเสียวถึงวังแน่ๆเพราะวันนี้ตาสว่างกว้างเหลือเกิน...นี่ละคือเดินหมากตาเดียวเสียวชัดทั้งกระดาน

  • ก่อนลาจากขอฝากบอกมิตรสหายให้รู้ถึงการคลายตัวของการข่มขู่ของคสช.ด้วยกฎอัยการศึกว่าวันนี้กำลังเป็น " กฎอัยการเสื่อม " แล้วอย่ากลัวมันมาก 555



-----------จบ-----------

ข่าวแรกของปีแต่เผด็จการคสช.สันดานยังเหมือนเดิม

ข่าวกอท.เสรีไทย:
"ข่าวแรกของปีแต่เผด็จการคสช.สันดานยังเหมือนเดิม"
----------------------
จาตุรนต์ ฉายแสง โพสต์เฟซบุ๊กอัด 'คณะรัฐประหาร' ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ไม่ฟังเสียงใคร...(ข่าวคมชัดลึก)
http://t.co/AWjWIntg8d
-------------------
เริ่มปีใหม่คสช.ยังส่งทหารออกรังควานสส.เพื่อไทยเป็นปกติโดยเฉพาะภาคอิสานหลักฐานตามภาพถ่ายจากข่าวในพื้นที่ที่หนังสือพิมพ์ไม่ลง
1.บ้านสส.จตุพร เจริญเชื้อ จ.ขอนแก่น
2.บ้านสส.เอมอร สินธุไพร จ.ร้อยเอ็ด
3.ถอดป้ายสวัสดีปีใหม่สส.สมหญิง บัวบุตร จ.อำนาจเจริญและที่ผ่านมาสส.สมหญิงเจอทหารข่มขู่รังควานหลายรอบมาก
*ประชาชนจงเลิกฝันกับการปฏิรูปการเมืองจากลมปากคสช.ว่าจะเกิดความเป็นธรรมและเตรียมรับกับรัฐธรรมนูญโจรที่ห้ามพรรคเพื่อไทยชนะและห้ามยิ่งลักษณ์กลับมาเป็นนายกแน่นอน

ดารณี รวีโชติ
ผอ.กอท.เสรีไทย
จันทร์5มค.58